ทางวัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงใหม่ได้สร้างพระชุดนี้ขึ้นมาเพื่อแจกให้แก่ญาติโยมที่ร่วมทำบุญในการซ่อมแซมวัด เมื่อปี พ.ศ.2484-85 โดยได้นิมนต์หลวงพ่อจาด วัดบางกะเบามาเป็นพระประธานในการปลุกเสกหมู่ คณาจารย์ท่านอื่นๆที่มาร่วมพิธีอาทิเช่น หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก จ.อยุธยา, หลวงพ่อทบ วัดชนแดน จ.เพชรบูรณ์, พระมหาเมธังกร วัดน้ำคือ จ.แพร่,
หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก กทม.,
หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย จ.สระบุรี,
หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติการาม จ.อยุธยา, หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ จ.สมุทรสาคร, หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง จ.นนทบุรีฯลฯ ด้านมวลสารเป็นผงวิเศษจากคณาจารย์ผู้มีวิทยาคมต่างๆหลายท่าน มีเกสรบุษบันหรือดอกบัวเผื่อน, เกสรดอกบานเย็น, เกสรดอกพิกุล, เกสรดอกบานไม่รู้โรย, เกสรดอกบัวหลวง และยังมีว่านที่มีคุณวิเศษทางเมตตามหานิยม โชคลาภ แคล้วคลาดและคงกระพันอีกเป็นจำนวนมาก เช่น ว่านสาวหลง, ว่านเสน่ห์จันทร์, ว่านนางกวัก, ว่านกวักเงินกวักทอง, ว่านลูกไก่ทอง, ว่านเกราะเพชร,ว่านคางคก, ว่านสบู่เลือดฯลฯ พระชุดนี้เป็นพระเนื้อดินละเอียดผสมผงผสมว่าน เนื้อพระจึงออกมาในโซนนี้ ส่วนสีพระแต่ละองค์อาจจะออกมาแตกต่างกันบ้าง เกิดจากการเผาเนื้อดิน รูปแบบพระชุดนี้จะเป็นพระประจำวันเกิดปางต่างๆ มีทั้งหมดแปดพิมพ์ พิธีกรรมในการสร้างพระสมัยโบราณจะพิถีพิถันมากกว่าในปัจจุบันมากนัก +++++หลังจากพิธีงานปลุกเสกแล้วได้แจกจ่ายให้แก่ญาติโยม ,ส่วนหนึ่งได้บรรจุลงกรุไว้ ,และได้มอบอีกส่วนหนึ่งให้แก่หลวงพ่อจาดนำมาแจกจ่ายลูกศิษย์ลูกหาในภาคกลางและภาคตะวันออก+++++ มีข้อโต้แย้งหลักๆสำหรับพระชุดนี้ว่าสร้างปีใดกันแน่ บ้างว่าสร้างปี2484-2485 บ้างว่า สร้างปี 2496 แต่ดูจากรายชื่อพระเกจิอาจารย์ที่มาร่วมปลุกเสกแล้ว หลวงปู่พริ้ง วัดบางปะกอกได้มาร่วมปลุกเสกด้วย หลวงปู่พริ้งท่านมรณภาพเมื่อปี 2490ครับ ดังนั้นพระชุดนี้น่าจะสร้างในปี 2484-85มากกว่า และในช่วงเวลาดังกล่าวหลวงพ่อจาดท่านดังมาก จึงไม่แปลกที่ได้รับนิมนต์ให้เป็นพระประธานในการปลุกเสกหมู่